Archive

Archive for April, 2014

แฉ!!กลโกงสอบครู(ตอน๑)

77f6gd5dk7hie789afcc7.jpg

“ผมมั่นใจ สพฐ.ต้องตั้งกรรมการสอบวินัย ผอ.ร.ร.ซี 8 ที่เข้าสอบครูผู้ช่วย อย่างแน่นอน” จาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวหลังจากสื่อปูดข่าวการสอบแข่งขันคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีทั่วไป ครั้งที่ 1 ปี 2557 หรือการสอบครูผู้ช่วย ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพ .) ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน ใน 89 เขตพื้นที่การศึกษาและสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) พบพิรุธมีครูระดับบริหารสมัครสอบด้วย ขณะที่รับได้จำนวน 1,888 อัตรา จาก 40 กลุ่มสาขาวิชาเอก มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 104,066 คน แต่มีผู้เข้าสอบจริงจำนวน 91,577 คน คิดเป็น 88% มีผู้ขาดสอบ 12,489 คน คิดเป็น 12%

ดูเหมือนว่าการสอบครูผู้ช่วย ภาค ก และ ภาค ข ได้ทยอยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบภาค ก และภาค ข ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน มีการสอบสัมภาษณ์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน และจะประกาศผลการสอบแข่งขัน ภายในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2557

ว่ากันว่าเบื้องหลังการสอบครูผู้ช่วยครั้งล่าสุดนี้ มีการทุจริตในการสอบเหมือนเช่นทุกครั้ง เพียงแต่รูปแบบกลโกงแตกต่างจากการสอบครูผู้ช่วยเมื่อเดือนมกราคม 2556 ที่ใช้ระบบสั่นสะเทือน

มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นแห่งชาติ(ภตช.) เปิดเผยกลโกงสอบครูต่อ “คม ชัด ลึก” ว่า การสอบครูผู้ช่วย เดือนมกราคมปี 2556 โดยมือปืนรับจ้างสอบใช้เครื่องสั่นสะเทือนส่งสัญญาณภายใน-นอกห้องสอบในรัศมี 300-500 เมตร ไปยังลูกทีมหรือผู้เข้าสอบ โดยอาศัยช่วงเข้าห้องน้ำปฏิบัติการ

ที่น่าตกใจ !! การสอบครูผู้ช่วยปี 2557 มีความหละหลวมมาก อย่างน้อย 4 ขั้นตอน ไล่เรียงมาตั้งแต่ 1.ขั้นตอนออกข้อสอบ มีแค่ชุดเดียวทั่วประเทศ ไม่มีการสลับข้อ ไม่มีสอบข้อเขียน เป็นข้อสอบปรนัยทั้งหมด ควรปรับสัดส่วนข้อสอบปรนัยกับอัตนัยเป็น 60 ต่อ 40 2.ขั้นตอนการรับสมัคร ไม่มีข้อห้ามไม่ให้ข้าราชการครูสมัครสอบ ทำให้ครูบางกลุ่มฉวยโอกาสสมัครสอบ เพื่อล่วงรู้ข้อสอบ แ ละนำข้อสอบมาจัดติว

“ผมถือว่าครูที่มาสมัครสอบครูผู้ช่วยซึ่งเป็นคุณวุฒิที่ต่ำกว่าครูระดับ ผอ.ร.ร. สะท้อนเจตนาพิเศษเพื่อล่วงรู้ข้อสอบเพื่อเปิดติว ซึ่งไม่ใช่หน้าที่หลักของข้าราชการครู ครูควรไปดูแลนักเรียน ไม่ใช่เบียดบังเอาเวลาราชการไปทำประโยชน์ส่วนตัว อย่าลืมข้าราชการทำงานวันจันทร์-ศุกร์ก็จริง แต่ลูกศิษย์เรียกครูทุกๆ วันไม่มีวันหยุด ควรตระหนักในข้อนี้”

3.ขั้นตอนการสอบไม่มีการกระจายที่นั่งสอบ เป็นจุดอ่อนให้มือปืนรับจ้างง่ายในการสมัครสอบเพื่อให้ได้ที่นั่งสอบติดกัน ทำให้สะดวกต่อการยิงรหัสข้อสอบให้แก่ผู้สอบหรือลูกค้า ควรปรับวิธีการสมัคร ควรให้ลาออกจากราชการก่อนสมัครสอบ เหมือนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม., การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ฯลฯ

“ในมุมกลับกัน ข้าราชการระดับซี 7 ซี 8 ซี 9 ที่มาสอบครูผู้ช่วยแล้วได้คะแนนต่ำ แสดงว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพ น่าจะมีบทลงโทษ อีกทั้งควรมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพครู คุณภาพการสอน คุณภาพการพัฒนาของครู ควรจะมีการทดสอบคุณภาพครูผู้สอนทุกๆ 2 ปี ถึงจะเป็นการปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง”

4.ขั้นตอนการคุมสอบ จัดข้าราชการมาคุมสอบ มีการทุจริตตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงเก่า ที่พัวพันกับการทุจริตสอบครูผู้ช่วยปี 2556 ยังเป็นทีมงานเก่า แต่ครั้งนี้เปลี่ยนวิธี จากการส่งสัญญาณ มาเป็นการส่งรหัสลับผ่านอวัยวะต่างๆ แทน

ว่ากันว่า ถ้าผู้สมัครสอบที่สำคัญมากๆ มือปืนจะเข้าสอบแทน ด้วยการฝนรหัสกับกระดาษคำตอบ กรณีดังกล่าวจะใช้เงินประมาณ 6-8 แสนบาทต่อราย ในการเข้าไปทำข้อสอบให้แล้วเขียนชื่ออีกคน ตรวจสอบยาก เพราะในห้องสอบไม่มีระบบสแกน และไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีการสแกนข้อสอบ และไม่มีการสแกนเมื่อส่งข้อสอบ แต่ตรวจสอบในขั้นตอนการเซ็นชื่อว่าเป็นของใคร เวลาเซ็นรับกระดาษ ำถามและกระดาษคำตอบว่าลายมือตรงกันหรือไม่ และตอนส่งกระดาษคำตอบต้องเป็นคนเดียวกัน

เหนืออื่นใด การยิงรหัสลับผ่านอวัยวะมือปืนได้ผลประโยชน์สูงมาก เป็นวิธีการใหม่ที่วงการสอบบรรจุข้าราชการครูเริ่มนำมาใช้เมื่อ 13-14 ปีมาแล้ว วิธีการส่งรหัสใช้อวัยวะในร่างกาย อาทิ ใช้เทคนิคจับใบหู แยก 4 ตำแหน่ง เพื่อระบุคำตอบข้อ ก. ข. ค. ง. หรือใช้สัญลักษณ์ด้วยการขยับตำแหน่งของเท้า อาทิ การยกเท่าขึ้น ตอบข้อ ก., การยกเท้าไปทางขวา ตอบข้อ ข., การยกเท้าไปทางซ้า ตอบข้อ ค. และการยกส้นเท้า ตอบข้อ ง.

สมมุติว่ามีข้อสอบ 150 ข้อ มือปืนต้องส่งรหัสข้อสอบ 150 ครั้ง แบ่งเป็นชุด ชุดละ 5 ข้อ เวลาส่งห่างกัน 5 วินาที เมื่อส่งครบ 5 ข้อ มือปืนจะเขย่าหัวเข่า 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นจะมีการเขย่าหัวเข่า 30 ครั้ง เพื่อส่งรหัสข้อสอบให้ครบ 150 ข้อ เมื่อส่งรหัสข้อสอบครบ มือปืนจะทำอุปกรณ์ เช่น ปากกา ดินสอ ยางลบ ตกพื้น เพื่อส่งสัญญาณให้ลูกค้าทราบว่า “ส่งเสร็จแล้วนะ” กระบวนการดังกล่าว ูกค้าจะต้องไม่ละสายตาจาก “มือปืน”

ว่ากันว่า เพื่อความมั่นใจ 100% ว่าจะทำข้อสอบได้ จะมีการทดสอบการส่งรหัสข้อสอบล่วงหน้า 7 วัน หลังจากประกาศเลขที่นั่งสอบแล้ว รู้ตำแหน่งที่นั่งสอบของลูกค้า ที่สำคัญลูกค้าต้องจ่ายเงินมัดจำ “3 ขั้นตอน” ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 จ่ายค่าติวข้อสอบกับหัวหน้าทีมติว(มือปืน) ตกหัวละ 6-8 แสนบาท แต่แยกจ่าย เมื่อถึงวันสมัครสอบต้องไปต่อแถวเรียงกันเพื่อให้ได้เลขที่นั่งสอบใกล้เคียงกันหรือสอบห้องเดียวกัน แต่ก่อนลงสนามสอบจริงจะซักซ้อมป้องกันความผิดพลาดในการยิงรหัสเหมือนสอบจริง ด้วยการเช่าสถานศึกษาที่มีห้องประชุมอเนกประสงค์ขนาดใหญ่

ขั้นตอนที่ 2 ก่อนสอบซึ่งจะมีการยิงรหัส ต้องจ่ายเงินมัดจำงวดแรก 2 แสนบาท เมื่อสอบเสร็จต้องจ่ายเงินงวดที่ 2 อีก 2-3 แสนบาทแล้วแต่ตกลงกัน และเมื่อรู้ผลแน่ชัดว่าสอบติดครูผู้ช่วยก็จ่ายงวดที่ 3 ในวงเงินที่เหลือให้ครบ

การส่งรหัสต่อให้มีการเปลี่ยนข้อสอบ สลับข้อสอบ กลุ่มผู้แสวงผลประโยชน์จากการสอบจะอาศัยมือปืนจำนวนมาก กระจายทุกสนามสอบ เขาจะไม่รู้จักกัน ส่วนใหญ่จะพักใกล้กันนัดเดินทางมาด้วยกัน

“ผมมีความเชื่อว่า กระบวนสอบครูผู้ช่วยจะทุจริตไม่ได้ หากเป็นข้อสอบข้อเขียน อาทิ สอบเลขเป็นตัวเลข มีทศนิยม, สอบเคมี หรือสอบฟิสิกส์ ก็ไม่ได้ วิชาสังคมก็กำหนดคำตอบอยู่ในกรอบ เช่นการก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มากี่ปีแล้ว ซึ่งการสอบครูผู้ช่วย สพฐ.สมมุติว่ามีลูกทีมที่ต้องการใช้วิธีพิเศษเป็นข้าราชการ 3,000 คน นั่นหมายถึงเม็ดเงินกว่า 1,800 ล้านบาท ที่มือปืนกลุ่ มนี้ได้รับ” เลขาธิการ ภตช. กล่าว

ติดตามตอน 2 “บิ๊กศธ.เอี่ยวโกงสอบครู”

……………………………………… (หมายเหตุ : แฉ!!กลโกงสอบครู(ตอน1) : กมลทิพย์ ใบเงินรายงาน)

วันอังคารที่ 29 เมษายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

สพม.15 (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ร่วมกันป้องกันหากมีกรณีการทุจริตในการสอบแข่งขัน และมิให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในการสอบแข่งขันทุกกรณี เพือให้การดำเนินการสอบแข่งขันฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ

574390.jpg

วันที่ 19-20 เมษายน 2557 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู ครั้งที่ 1 ปี 2557 นายซอมะ ดาแม รก.ผอ.สพม. 15 ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ ดร.พีรศักดิ์ รัตนะ ผู้อำนวยการสำนักงานศึกษาธิการภาค 12 และคณะ ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมศูนย์สนามสอบ สังกัด สพม. 15 ณ โรงเรียนเมืองนราธิว ส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ร่วมกันป้องกันหากมีกรณีการทุจริตในการสอบแข่งขัน และมิให้มีการแสวงหาผลประโยชน์ในการสอบแข่งขันทุกกรณี เพือให้การดำเนินการสอบแข่งขันฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ตรวจสอบได้ และได้รับความเชื่อถือไว้วางใจ (จิดาภา สุวรรณกูฏ ภาพ/ข่าว)

21 เมษายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1 อบรมค่ายภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนขยายโอกาส

574625.JPG

สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1 อบรมค่ายภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนขยายโอกาส วันที่ 21 เมษายน 2557 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 จัดอบรมค่ายภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนแบบเข้มสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-7 ณ โรงเรียนวัดมุขธารา วันที่ 21-30 เมษายน 2557 เพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้นักเรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ือความสามารถในการสื่อสาร การคิดการแก้ปัญหา มีทักษะการใช้ชีวิตและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาสื่อสาร การคิดการแก้ปัญหา มีทักษะการใช้ชีวิตและเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษและเน้นให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารเป็นพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาสู่การประกอบอาชีพในลำดับต่อไป ทั้งยังเป็นแนวทางในการสอนของครูระดับชั้นมัธยมศึกษ าปีที่ 1-๓ในการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนาน มีความสุขและบรรลุวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ว่าที่ร้อยตรีวัฒนา ไกรนุกูล ผอ.สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1 ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดการอบรม การจัดค่ายภาษาอังกฤษครั้งนี้ใช้วิธีการฝึกปฏิบัติกิจกรรมโดยแบ่งเป้นฐานการเรียนรู้ 4 ฐานคือฐาน Listening Speaking ReadingและWriting นักเรียนจะเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละฐานโดยหมุนเวียนจนครบ ทั้ง 4 ฐาน ใช้เวลาในการอบรมค่ายภาษาอังกฤษ 10 วัน 10 คืน ผู้เข้าค่ายภาษาอังกฤษนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 110 คน จากโรงเรียนขยายโอกาส จำนวน 22 โรงเรียนวิทยากรชาวต่างประเทศ จำนวน 2 คน// สุภาพร ดาราจิตร ภาพ/จรวยพร อัตปัญญา รายงาน

21 เมษายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

สังคมราชภัฏประจำวันที่23เม.ย.57

ei7i5hkbeb95ah9h9ikac.jpg

“สังคมราชภัฏ” ผ่าน “คม ชัด ลึก” พบกันทุกวันพุธ หยุดกันที่กรณีนักศึกษาคณะครุศาสตร์ มรภ.สุรินทร์ ได้รับผลกระทบกรณีหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 5 ปี ไม่ได้รับการรับรองจากคุรุสภา “ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์” ประธานคณะกรรมการคุรุสภา ไม่อยากเหนื่อยต่อ ส่งหนังสือเตือน 167 มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ตรวจสอบหลักสูตรส่งให้ สกอ.รับทราบ และส่ ให้คุรุสภารับรองก่อนเปิดรับไม่น้อยกว่า 60 วัน ..โดยเฉพาะนักศึกษาคณะครุศาสตร์ /ศึกษาศาสตร์ ที่จะสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2557 ต้องเร่งดำเนินการให้ทันภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ นี่ก็เหลือเวลาไม่ถึงอึดใจแม้ว น่าเป็นห่วงล่วงหน้าถ้ามี อาจจะเข้าสูตรที่ถนัดตามระบบราชการชอบใช้กับคำว่า เยียวยา น่าที่ “ผศ.ดร.นิวัติ กลิ่นงาม” อธิการบดี มรภ.ราชภัฏเพชรบุรี ประธานที ่ประชุมอธิการบดีมรภ.ราชภัฏทั่วประเทศ ถามไถ่ ไต่ความ ยังมีราชภัฏที่ไหนมั่งยังใจเย็นไม่ขยับก่อนสายเกิน ..โฉบไปที่การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษา ภายใต้โครงการ สกอ.สัญจร 2557 เก็บตกจาก “ดร.พรชัย มงคลวนิช” อธิการบดี ม.สยาม ในฐานะนายกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ยินดีนำเสนอด้วยความเห็นการพัฒนาการเรียนการสอนของเอกชนจะแต ต่างจากมหาวิทยาลัยรัฐ ม.เทคโนโลยีราชมงคล มรภ.ราชภัฏ และ วิทยาลัยชุมชน ยังไงๆ ทุกคนเมื่อเรียนจบแล้วต้องทำงานได้จริงๆ ขอย้ำ จริงๆ ..ที่น่าสนใจในความโดดเด่นด้วยการลุกขึ้นเสนอให้สกอ.ทบทวนเกณฑ์ประเมิน และตัวบ่งชี้ในการประกันคุณภาพภายใน เพราะมหาวิทยาลัยเอกชนต้องการต้องการเห็นความชัดเจนมากกว่าความคลุมเครือ หลายเรื่องในทางปฏิบัติทำได้ยาก “ดร.มัทนา สาน ติวัตร” อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ยกนิยามผู้เรียนเป็นคนดีมีแนวทางอย่างไร เสียดาย “ศ.(พิเศษ) ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์” เลขาธิการ กกอ.ไม่ได้อยู่ฟังเนาะ ..ยังมีเรี่ยวแรงแข็งขัน ยิ่งอยู่นานหน้ายิ่งใสกว่าใครๆ ในรุ่นเดียวกันที่เกษียณอายุราชการไปนานแล้ว “ดร.พลสัณฑ์ โพธิ์ศรีทอง” อดีตเลขาธิการสภาสถาบันราชภัฏ คนสุดท้าย วันนี้เป็นประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพค รุสภา หนุนการมีคณะอนุกรรมการสรรหาคุรุสภาจังหวัด จะช่วยให้การตรวจสอบมาตรฐานวิชาชีพในสถาบันการศึกษาพื้นที่ดีและเร็วขึ้น ใครเชื่อยกมือขึ้น

..กลับมาแล้วจากอินเดีย “รศ.ดร.พงศ์ หรดาล” อธิการบดี มรภ.พระนคร ลุยงานร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี และเครือข่ายกลุ่มอาชีพสหกรณ์ไทย ใน 2 โครงการวิจัยขนาดยักษ์ให้มีความเข้มแข็งและยืนหยัดได้ด้วยบนฐานคิดเศรษฐกิจพอเพียง ปีงบ 2557 มีพื้นที่เป้าหมายจังหวัดนนทบุรีและสุพรรณบุรี ขยันจริงๆ

วันพุธที่ 23 เมษายน 2557

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

มูลนิธิธารน้ำใจ ค้นหาคนไทยที่เป็นคนดี ทำประโยชน์แก่สังคมโดยทั่วไปไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา ประกาศยกย่องเกียรติคุณให้ปรากฏ และมอบรางวัล

447625.jpg

มูลนิธิธารน้ำใจ ขอเชิญสถานศึกษาส่งผลงานด้านคุณธรรมจริยธรรมเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก ให้ได้รับรางวัลเกียรติคุณ สัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2556 ในโครงการเชิดชูเกียรติสถานศึกษาที่สร้างคนดีให้สังคมด้วยการส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรมดีเด่น วัตถุประสงค์ของมูลนิธิธารน้ำใจ 1 ค้นหาคนไทยที่เป็นคนดี ทำประโยชน์แก่สังคมโดยทั่วไปไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา ประกาศยกย่องเกียรติคุณให้ปรากฏ และมอบรางวัล 2 ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคคลทำประโยชน์แก่สังคม เสียสละเพื่อส่วนรวมและทำหน้าที่พลเมืองดี 3 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม 4 ให้การรักษาพยาบาลแก่บุคคลที่มีรายได้น้อย โดยไม่คิดมูลค่า 5 บำเพ็ญการกุศลและสาธารณประโยชน์โดยทั่วไป 6 ให้ความร่วมมือกับองค์กุศลอื่น เพื่อสาธารณประโยชน์ วัตถุประสงค์ของโครงการเชิดชูเกียรติสถานศึกษาที่สร้างคนดีให้สังคมด้วยการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมดีเด่น 1 เพื่อเชิดชูเกียรติสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรมจนประสบผลสำเร็จ 2 เพื่อส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมในการส่งเสริม พัฒนา และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียน 3 เพื่อเผยแพร่กิจกรรมและแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียน 4 เพื่อกระตุ้นให้สถานศึกษาตอบสนองและเป็นแนวร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพัฒนา และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน และบุคลากรภายในโรงเรียนให้มากขึ้น กดลิงค์เข้าสู่เว็บไซต์มูลนิธิธารน้ำใจ http://www.tarnnamjai.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=539268176&Nty…

ศุกร์, 28 มิถุนายน 2556 | by sudsakron

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

อุตรดิตถ์พิจารณาคัดเลือกนักเรียนเข้ารับพระราชทานทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

575426.JPG

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก คัดสรรผู้รับพระราชทานทุนและประสานงานระดับจังหวัด ณ ห้องประชุมสวางคบุรี ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อพิจารคัดเลือกนักเรียนผู้มีสิทธิ์เข้ารับพระราชทานทุนของโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใน ีการศึกษา 2556 โดยมี นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นายประพฤทธิ์ สุขใย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุตรดิตถ์ เขต 1 และ

รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัการศึกษา เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการคัดเลือก คัดสรรผู้รับพระราชทานทุนและประสานงานระดับจังหวัด โดยคุณสมบัติเบื้องต้นของนักเรียนผู้มีสิทธิ์เข้ารับพระราชทานทุนฯ คือเรียนดี ประพฤติดี แต่มีฐานะยากจน ผลการเรียนคะแนนเฉลี่ยไม่ ต่ำกว่า 3.00 ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 200,000 บาท

และมีความประสงค์จะเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญหรือสายอาชีพ ต่อเนื่องจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยพิจารณาคัดเลือก จำนวน 6 ราย จากผู้แสดงความประสงค์ทั้งสิ้น 15 ราย กรรณิกา : ข่าว / ธราเทพ : รายงาน

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

เด็กทำงานช่วงปิดเทอม ปลูกหญ้ามาเลเชีย ปรับภูมิทัศน์โรงเรียน

570024.JPG

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 12 คน ของโรงเรียนท่าทองพิทยาคม ที่เข้าร่วมโครงการหารายได้ระหว่างปิดภาคเรียน ใช้เวลาในช่วงปิดภาคเรียน ทำงานปลูกหญ้ามาเลเชีย ปรับแต่งภูมิทัศน์ภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อความสวยงาม โดยได้รับค่าตอบแทนวันละ 200 บาท โครงการส่งเสริมให้นักเรียนทำงานหารายได้ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ประจำปี 2557 ของสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์) เป็นโครงการเพื่อสนับสนุนให้นักเรียนทำงานพิเศษ หารายได้ในเวลาว่างจากการเรียน เป็นการแก้ปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้นักเรียนได้รับประสบการณ ์จากการทำงาน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แก่ตนเอง ครอบครัวและสังคม โดยให้เด็กนักเรียนเริ่มทำงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2557 นี้ นายสุริยา จันทิมา ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าทองพิทยาคม กล่าวว่า โครงการส่งเสริมให้นักเรียนทำงานหารายได้ในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ปี 2557 เริ่มต้นมาจากที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 ได้จัดทำโครงการขึ้น เพื่อให้ เ ็กนักเรียนใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอม มาทำประโยชน์ให้โรงเรียน นับว่าเป็นโครงการที่ดี แทนที่เด็กนักเรียนจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นอะไรที่ไม่เหมาะสม เราก็ให้เด็กมาทำงานแบบนี้ ทำให้มีประโยชน์ นักเรียนได้ค่าตอบแทน เป็นรายวัน อีกทั้งโรงเรียนก็ได้สนามหญ้าเต็มพื้นที่ในการใช้ประโยชน์ทำกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน การปลูกหญ้ามาเลเชีย เป็นหญ้าที่มีความมีต่อ ภาพอากาศ การให้เด็กเรียนรู้การเพาะการปลูก การคัดแยก ก็เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่งแทนที่เราจะเสียเงินไปซื้อหญ้าเป็นแผง ๆ มาปลูกเอง” ด้าน นางสาววิภาพร แจ่มดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ บอกว่า “ การทำงานในช่วงปิดภาคเรียนที่โรงเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำงาน ถือเป็นการเสริมสร้างให้นักเรียนมีรายได้ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ เป็นการฝึกอาชีพไปในตัว เป็นโครงการที่ดีมาก ได้ประโยชน์ให้ใช้เวลาว่างให้ถูกต้อง ไม่ไปมั่วสุมในสิ่งที่ได้ดี อยากให้มีโครงการดี ๆ แบบนี้อีก” สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 มีโรงเรียน 10 โรงเรียน จาก 58 โรงเรียนทั้งจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้รับการคัดเลือก อาทิ โรงเรียนคันโช้งพิทยาคม โครงการประดิ ฐ์ของที่ระลึกจากวัสดุธรรมชาติ โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม โครงการผลิตดินเกษตร โรงเรียนท่าทองพิทยาคม โครงการปลูกหญ้ามาเลเชีย ปลูกมะนาว โรงเรียนวังน้ำคู่ศึกษา โครงการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยน้ำว้า กล้วยไม้ โรงเรียนวังกะพี้พิทยาคม จัดทำโต๊ะอเนกประสงค์ เป็นต้น

Categories: Uncategorized

สพป.หนองบัวลำภู เขต 1 จัดกิจกรรมสวดมนต์ ไหว้พระ ทำสมาธิ รักษาศีล 5 ทุกวันพฤหัสบดี

576896.JPG

นำทีมบุคลากรสร้างองค์กรต้นแบบประพฤติธรรมสัปดาห์ ละ 1 วัน ด้วยการสวดมนต์ ไหว้พระรักษาศีล 5 แต่งกายชุดปฏิบัติธรรมทุกวันพฤหัสเสริมสร้างบุคลิกภาพไฝ่ธรรม

นายสมุทร สมปอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 เปิดเผยว่าตามที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 มีนโยบายสร้างเด็กดีและเด็กเก่งสู่สังคมไทยและสังคมโลก ซึ่งการดำเนินการจะประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันสำคัญคือบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน ต้องประพฤติปฏิบัติต นเป็นตัวอย่างที่ดี ส่งผลก่อให้นักเรียนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาและปฏิบัติตนตามหลักคุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับเพศและวัย โดยในช่วงแรกได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ทศพร คตฺตวโร ผู้อำนวยการศูนย์กัลยาณมิตรจังหวัดหนองบัวลำภู รับเป็นต้นบุญภายใต้โครงการดังกล่าว นายสมุทร สมปอง กล่าวว่าในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 จึงไ ด้จัดให้มีโครงการไหว้พระสวดมนต์ สำหรับบุคลากรในสำนักงานขึ้น เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างตั้งแต่การแต่งกายด้วยชุดปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาว หรืออย่างน้อยใส่เสื้อสีขาวในวันดังกล่าว พร้อมน้อมนำหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ที่จะส่งผลให้เกิดความเป็นสิริมงคลสงบสุข ร่มเย็น ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ

นายสมุทร สมปอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 ยังได้กล่าวอีกว่าโครงการไหว้พระสวดมนต์ แบ่งกิจกรรมเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรก สำหรับบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 นำร่องด้วยการจัดกิจกรรมไหว้พระสวดมนต์ในทุกวันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 08.00 -09.00 น.ส่วนที่ 2 ขอความร่วมมือให้สถานศึกษาในสังกัดจัดกิจ รรมไหว้พระสวดมนต์สำหรับครูผู้สอน ผู้บริหารโรงเรียนและผู้บริหารการศึกษา ในวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ซึ่งคาดว่าเมื่อบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารโรงเรียนและคณะครู จะได้ร่วมปฏิบัติกิจกรรมแล้วจะทำให้จิตใจสงบ มีความสุข และประพฤติตนเป็นแบบอย่างเชื่อมโยงสู่กิจกรรมที่ 3 สำหรับนักเรียนคือโครงการนั่งสมาธิสู่คุณภาพ ซึ่งจะใช้การนั่งสมาธิพัฒนาผลส ัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้น ในชั่วโมงเรียน ส่วนการปฏิบัติในกิจกรรม 1-2 ผู้ปฏิบัติต้องทำด้วยความเต็มใจ ไม่มีการบังคับแต่จะเป็นการสะสมชั่วโมงการปฏิบัติเพื่อนำไปใช้ในความก้าวหน้าของแต่ละคนในอนาคตด้วย

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

พบกล้วยป่าสายพันธุ์ใหม่ตั้งชื่อ”กล้วยนาคราช”

สกว.ร่วมกับอุทยานการเรียนรู้ทีเคปาร์ค จัดนิทรรศการ “เรื่องกล้วย กล้วย” พบกล้วยป่าสายพันธุ์ใหม่ของโลกตั้งชื่อ”กล้วยนาคราช”

Read more…

สพม. 29 จัดประชุมปฏิบัติการเพิ่มความรู้ระบบควบคุมภายใน ประจำปี 2557

576960.JPG

สพม. 29 จัดประชุมปฏิบัติการเพิ่มความรู้ระบบควบคุมภายใน ประจำปี 2557

ให้กับครูในสังกัดทุกโรงเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 (อุบลราชธานี – อำนาจเจริญ) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระบบควบคุมภายใน ประจำปี 2557 เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานฯและในโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดมีความรู้ ความเข้าใจ มีการดำเนินการและรายงานผลตามกำหนด โดย นายประวิทย์ หลักบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 เป็นประธานเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษ เนื่องในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระบบควบคุมภายใน ประจำปี 2557 ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานฯและในโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดทุกโรงเรียน รวม 88 คน เมื่อวันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2557 เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมสุนีย์ตริยางกูรศรี โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ถนนสรรพสิทธิ์ ตำบ ในเมือ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีนายวลงกรณ์ บุญเต็ม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29, นายสุรเวศ มณีภาค ผู้อำนวยการโรงเรียนนาคสมุทรสงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 ผู้เป็นวิทยากร, นายปัญญา แพงเหล่า ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ, นายศักดิ์สิทธิ์ ทวยทน รองผู้อำนวยการโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช, นายวิ ชียร พลพวก รองผู้อำนวยการโรงเรียนปทุมพิทยาคม, นายพิชัย ญาณศิริ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ, นางสาวสุภาวดี สมบัติ เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 พร้อมคณะ ร่วมให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม

นายวลงกรณ์ บุญเต็ม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 กล่าวว่า จากการที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ได้กำหนดระเบียบคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินว่าด้วยการกำหนดมาตรฐานการควบคุมภายใน พ.ศ. 2544 ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานรับตรวจนำมาตรฐานการควบคุมภายในไปใช้เป็นแนวทางในการจัดวางระบบควบคุมภายในอย่างมีประสิทธิภาพแล ประสิทธิผล ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการควบคุมภายใน โดยให้หน่วยงานของรัฐประเมินการควบคุมที่มีอยู่ว่าเพียงพอหรือไม่เพียงใด เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ซึ่งการควบคุมที่มีอยู่เดิมอาจไม่เหมาะสมและเป็นปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติการควบคุมภายในที่มีอยู่ ว่า มีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่ เพื่อปรับปรุงการควบคุมภา ใน ให้มีประสิทธิภาพและจัดทำรายงานการประเมินการควบคุมภายใน แล้วรายงานต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 5 ปีละ 2 ครั้ง ในรอบ 6 เดือน และ 12 เดือน (ตามระเบียบฯ ข้อ 6) ซึ่งทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมีนโยบายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการขยายผลให้คว มรู้แก่บุคลากรภายในสำนักงานฯและสถานศึกษาในสังกัดเพื่อดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานฯ ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานระบบควบคุมภายในของกลุ่ม / กลุ่มงาน ต่างๆ รวม 7 คน และในโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดทุกโรงเรียน จำนวน 81 โรงเรียน ที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานระบบควบคุมภายในของโรงเรียนๆละ 1 คน รวม 81 คน รวมทั้งหมด 81 คน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีการดำเนินการ และมีการรายงานการ วบคุมภายในตามระเบียบฯ ที่กำหนด ปีละ 2 ครั้ง, เพื่อให้ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษาในสังกัด มีความตระหนักและปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส ได้รับการยกย่อง และเป็นหน่วยงานราชการใสสะอาด โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจระบบควบคุมภายใน แผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษา ของสำนักงานเขตพ ้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จำนวน 30,000 เป็นค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการ ได้เรียนเชิญและได้รับเกียรติจาก นายสุรเวศ มณีภาค ผู้อำนวยการโรงเรียนนาคสมุทรสงเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 5 ซึ่งเป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดองค์ความรู ้ให้

นายประวิทย์ หลักบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 กล่าวว่า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระบบควบคุมภายใน เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานฯ และในโรงเรียนในสังกัด ได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำระบบควบคุมภายใน และสามารถจัดทำรายงานผลการควบคุมภายในได้อย่างถูกต้องนี้ จะเป็นประโยชน์อย างยิ่งต่อข้าราชการครูและบุคลกรทางการศึกษาและองค์กรโดยรวม ซึ่งจะทำให้สามารถจัดทำระบบและทำรายงานการควบคุมภายในได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการได้เป็นอย่างดี ………………… นายศักดิ์ระพี สีมาวัน นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานประชาสัมพันธ์

นายวรุท เกษเพ็ชร์ เจ้าหน้าที่ไอซีที

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29

โทรศัพท์ 045 – 422186, 045 – 323910, 081 – 265 7046, โทรสาร 045 – 422185

http://www.secondary29.go.th e-mail:neeenoy11@gmail.com FACEBOOK.COMศักดิ์ระพี สีมาวัน

บันทึกภาพ / รายงานข่าว วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2557

(ประมวลภาพกิจกรรมส่วนใหญ่ จะจัดส่งและขอเชิญติดตามหรือดาวน์โหลดเพิ่มเติม

ได้ที่ e-mail:neeenoy11@gmail.com และหรือ FACEBOOK.COMศักดิ์ระพี สีมาวัน)

ขอบคุณแหล่งข้อมูล: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ